มูลนิธิผู้หญิง ร่วมกับ เครือข่ายนักจัดรายการวิทยุจังหวัดพังงา ประกาศผลการประกวดคำขวัญโดยให้เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน ๑๘ ปี ในพื้นที่จังหวัดพังงาร่วมรณรงค์ป้องกันความรุนแรงและแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี และมีพิธีมอบรางวัลในงาน ๓ ปีสึนามิ ที่ชุมชนชนบ้านไอทีวี เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม ที่ผ่านมา

เนื่องด้วยเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นเดือนที่รัฐบาลไทยประกาศให้เป็นเดือนแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและผู้หญิง มูลนิธิผู้หญิงจึงได้ตระหนักถึงความสำคัญในการกระตุ้นให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการรณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหา จึงได้ร่วมกับเครือข่ายนักจัดรายการวิทยุจังหวัดพังงา จัดประกวดคำขวัญขึ้น 

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้หญิงชายในชุมชนเคารพกัน และใช้สันติวิธีในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้หญิงและเด็กต้องถูกกระทำจากความรุนแรงรูปแบบต่าง ๆ ทั้งความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัว สามีทุกตีภรรยา และมีการละเมิดทางเพศต่อเด็ก และความรุนแรงที่เกิดในชุมชน ได้แก่ การข่มขืน ลวนลามทางเพศ โดยมีรายงานระบุว่า 

กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ ๑๑ – ๑๘ ปี เป็นกลุ่มที่ถูกกระทำความรุนแรงมากที่สุด ร้อยละ ๔๐ ของผู้หญิงอายุ ๑๕ – ๔๙ ปี ยอมรับว่าเคยถูกทำร้ายจากสามีหรือคนรัก ในแต่ละวัน มีผู้หญิงและเด็กถูกข่มขืน ๑๐ ราย สำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า ปี ๒๕๔๙ มีคดีข่มขืน ๓๙๒๒ ราย 

ข้อมูลของศูนย์ประชาบดี พบว่า ปี ๒๕๔๘ – ๒๕๔๙ มีการละเมิดสิทธิเด็ก จำนวน ๓๐๑ ราย เด็กถูกทำร้ายร่างกาย จำนวน ๑๗๓ ราย เด็กถูกละเมิดทางเพศ จำนวน ๘๙ ราย ผลการตัดสิน 

ประกาศผลรางวัลประกวดคำขวัญ

รางวัลชนะเลิศ – ใช้สติแก้ปัญหา ใช้ปัญญาลบอคติ เคารพเรื่องสิทธิ เพื่อยุติความรุนแรง  ด.ญ.เสาวลักษณ์ เจ๊ะโส๊ะ โรงเรียนบ้านหินลาด

รองชนะเลิศ อันดับหนึ่ง–  มีสติเป็นกำลัง หยุดยั้งด้วยเมตตา แก้ปัญหาความรุนแรง นายพรศักดิ์ ยอดป้าน หมู่บ้านชัยพัฒนา 

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับสอง–  ครอบครัวสุขสันต์ อยู่ร่วมกันอย่างสันติ เคารพในสิทธิ ลบอคติด้วยเหตุผล ด.ญ.ธนัชพร อุปมา ร.ร.ราชประชานุเคราะห์ 35 

รางวัลชมเชย  

1.ตั้งสติก่อนทำการ เพื่อลูกหลาน ในอนาคต โปรดหยุดความรุนแรง ด.ญ.อังคณา แก้วลิพอน ร.ร.พระราชทานทับละมุ 

2..สตรีคือเพศแม่อย่ารังแกหยุดเสียที ชายใดชอบทุบตี กฎหมายมีโปรดระวัง โลกเราทุกวันนี้สิทธิ์เสรีเท่าเทียมกัน หญิงไทยไม่เคยหวั่นจะฝ่าฟันสู้วิกฤต สองมือและสองขาจะฟันฝ่าเพื่อขอสิทธิ์ วอนท่านผู้ทรงฤทธิ์ออกกฎหมายสิทธิ์คุ้มครองเอย น.ส.ยุพิน สมุทรวารี บ้านหินลาด อ.ท้ายเหมือง 

3.ชนะใจ ชนะตน ชนะคน ชนะความรุนแรง ด.ญ. วรรลี บุตรฤทธิ์ หมู่บ้านชัยพัฒนา 2 

4.ค่อยค่อยพูด ค่อยค่อยจา แก้ปัญหาด้วยเหตุผล ด.ญ.จันทิมา เพียวอยู่ หมู่บ้านชัยพัฒนา 2 

5.สตรีนั้นคือแม่ ต้องดูแลเป็นอย่างดี ทุกคนห้ามตบตี สตรีคือแม่เรา ด.ช.นัฐพล เข็มกลัด โรงเรียนบ้านเตรียม 

6.หยุดการใช้กำลังตัดสินปัญหา แล้วหันหน้าปรึกษากันด้วยเหตุผล นางสาววรรณนภา บุญอินทร์ โรงเรียนบ้านเตรียม 

7.ผมเป็นเด็กชาย ไม่ทำร้ายเด็กหญิง ผมกล่าววาจาจริง ผมจะต้านความรุนแรง ด.ช.ผดุงศักดิ์ สอิ้งทอง โรงเรียนบ้านเตรียม 

8.พรุ่งนี้ต้องดีกว่า เมื่อรู้ค่าชีวิตคน พวกเราเยาวชน ร่วมต่อต้านความรุนแรง ด.ญ.ทิพย์วิมล จันทร์สุข โรงเรียนบ้านเตรียม 

9.เคารพในสิทธิส่วนบุคคล เป็นวิธีที่หลุดพ้น การกระทำความรุนแรง ด.ญ.อรอุมา โกยแก้ว โรงเรียนบ้านคุรอด 

10.แก้ไขการทารุณด้วยวิธีทางปัญญา ดีกว่าสร้างปัญหาด้วยความรุนแรง ด.ญ.พิมพ์ชนก ผลทวี โรงเรียนวัดนิโครธาราม 

11. เราเป็นคนรุ่นใหม่ ต้องไม่ใช้ความรุนแรง ด.ญ.เบญจมาภรณ์ ชูศิริ โรงเรียนวัดนิโครธาราม 

12.ชุมชนจะก้าวไกล ถ้าร่วมใจ ไม่ละเมิดสิทธิเด็กและสตรี ด.ญ.ดารุณี แสงมณี โรงเรียนบ้านบางกรัก 

13.พูดกันด้วยเหตุผล ลดการทารุณ ควบคุมการใช้ความรุนแรง ขจัดความขัดแย้งอย่างสันติ ด.ญ.วิลาวรรณ ใจดี โรงเรียนตะกั่วป่าคีรีเขต 

14.เกิดปัญหา หันหน้ามา พูดหารือ สื่อความคิด ยุติความรุนแรง นางสาวอัญชิสา อัยรักษ์ โรงเรียนทุ่งโพธิ์วิทยา 

15.ความรุนแรงไม่ใช่การแก้ปัญหา การหันหน้ามาปรึกษาคือทางออกอย่างแท้จริง นางสาวรัชนาพร บุญชู โรงเรียนทับปุดวิทยา